หน่วยที่ 4 รูปแบบของการประกอบธุรกิจ
หน่วยที่ 4 รูปแบบของการประกอบธุรกิจ
รูปแบบของการประกอบธุรกิจ การประกอบธุรกิจมี 8 รูปแบบ ได้แก่
1. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว
2. ห้างหุ้นส่วนบริษัท
3. บริษัท
4. กิจการร่วมค้า
5. กองทุนธุรกิจ
6. โฮลดิ้งคอมพานี
7. สหกรณ์
8. รัฐวิสาหกิจ
ธุรกิจเจ้าของคนเดียว เป็น ธุรกิจที่มีผู้ดำเนินการหรือเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว
เป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการมากที่สุดและมีอายุเก่าแก่ที่สุด
มักเป็นธุรกิจในครอบครัว
ข้อดีธุรกิจเจ้าของคนเดียว เป็นธุรกิจที่จัดตั้งได้ง่าย
ใช้ทุนในการดำเนินการน้อย
มีอิสระในการดำเนินธุรกิจ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และสามารถเลิกล้ม
กิจการได้ง่าย
ห้างหุ้นส่วน เป็นรูปแบบการดำเนินการธุรกิจที่มีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงใจ
ที่จะร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกันเ โดยการทำสัญญาร่วมกัน มีรูปแบบการดำเนินการ 3 รูปแบบคือห้างหุ้นส่วนสามัญห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล และห้างหุ้นส่วนจำกัด
ข้อเสียของการประกอบธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วน คือ
เป็นธุรกิจที่มีปัญหาในเรื่อง
ความซื่อสัตย์ของผู้ร่วมหุ้น เพราะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน นอกจากนั้นการถอน หุ้นส่วนทำได้ยากและมีความไม่แน่นอนในการประกอบธุรกิจมาก
บริษัท เป็นการประกอบธุรกิจสามารถจัดตั้งได้ 2 ประเภท ได้แก่
1. บริษัทจำกัด
เป็นธุรกิจที่มีการลงทุนร่วมหุ้นของบุคคลตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป
2. อาจรู้จักหรือไม่รู้จักกันเลยก็ได้
แต่มีวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อประกอบการค้า
3. อย่างใดอย่างหนึ่ง
มีผู้เชี่ยวชาญมาประกอบกิจการ จ้างผู้มีความรู้ความสามารถ
4. ระดมทุนกันมาก
ผู้ถือหุ้นรับผิดชอบเพียงค่าหุ้นที่ตนซื้อ
5. บริษัทมหาชน
คือรูปแบบของการประกอบธุรกิจที่จัดตั้งโดยอาศัยพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด
พ.ศ. 2535 เป็นลักษณะมหาชน (Public
company limited เป็นบริษัทที่มี
วัตถุประสงค์ที่เสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปแบ่งหุ้นเป็นหุ้นละเท่าๆ กันผู้ ถือหุ้นรับผิดชอบจำกัด ไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ต้องชำระ มีความแตกต่าง จากบริษัทเอกชนตรงที่ มีขนาดใหญ่ ต้องใช้ทุนมากสามารถเสนอขายหุ้นให้ กับประชาชนทั่วไป การตั้งชื่อบริษัทมหาชนจะต้องมีคำว่า “บริษัท” นำหน้า และมีคำว่า “จำกัด(มหาชน)” ต่อท้าย หรือใช้ชื่อย่อว่า “บมจ.” นำ หน้าแทนคำว่า“บริษัท”และต่อท้ายด้วยคำว่า “จำกัด(มหาชน) ก็ได้
กิจการร่วมค้า เป็นรูปแบบของการประกอบธุรกิจที่เป็นความร่วมมือระหว่าง
เอกชนกับเอกชนเช่นระหว่างบริษัทกับบริษัท หรือบริษัทกับห้างหุ้นส่วน อาจมีลักษณะ เป็นการร่วมลงทุนข้ามชาติระหว่างบริษัทภายในประเทศกับบริษัทต่างชาติ นิยมใช้ในการ ประกอบธุรกิจที่ใช้เวลาสั้นๆในการประกอบการ เมื่อดำเนินธุรกิจเรียบร้อยแล้วก็ยกเลิก กิจการร่วมค้าไป ลักษณะสำคัญๆ ของกิจการร่วมค้า มีดังนี้
1. เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทกับบริษัท
หรือระหว่างบริษัทกับห้างหุ้นส่วน
แต่ระหว่างห้างหุ้นส่วนกับห้างหุ้นส่วนไม่ได้
2. ผู้ร่วมลงทุนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบในหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ
โดยไม่จำกัดความรับผิดชอบ
3. กิจการร่วมค้ามักมีลักษณะความร่วมมือชั่วคราว
โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
ดำเนินกิจการใดกิจการหนึ่งให้สำเร็จลุล่วงแล้วเลิกกิจการร่วมค้าไป
4. การถอนตัวจากกิจการร่วมค้าจะกระทำได้เมื่อผู้ร่วมกิจการยินยอมเท่านั้น
หากไม่ยินยอมแล้วจะถอนตัวไม่ได้
5. หากผู้ร่วมกิจการร่วมค้าคนใด
คนหนึ่งเสียชีวิต กิจการร่วมค้านั้นยังคง
ดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องยกเลิกเพราะถือว่าเป็นการดำเนินธุรกิจของ นิติบุคคล
กองทุนธุรกิจ เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
นำทรัพย์สินที่ประสงค์จะลงทุนไปมอบให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลอีกคนหนึ่ง
ซึ่งอาจประกอบกิจการในรูปแบบของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทก็ได้
เพื่อนำทรัพย์สินไป
ประกอบธุรกิจโดยมีการกำหนดเงื่อนไขของการลงทุนและกำหนดระยะเวลาในการลงทุน ไว้อย่างชัดเจน
โฮลดิ้งคอมพานี เป็นธุรกิจที่เน้นการเข้าควบคุมนโยบายของบริษัทในเครือของ
ตนเองโดยวิธีการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทในเครือ มักเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จึงมี อำนาจในการกำหนดนโยบายในการดำเนินกิจการของบริษัทในเครือ บริษัทที่เข้าไป
ควบคุมนโยบายมีชื่อเรียกว่า “บริษัทแม่” ส่วนบริษัทที่ถูกควมคุมเรียกว่า
“บริษัทในเครือ” โฮลดิ้งคอมพานี มีลักษณะสำคัญดังนี้
1. บริษัทที่ขายหุ้นให้บริษัทอื่นเกินกว่าร้อยละ 50 จึงถูกควบคุมในด้านนโยบายและ การบริหารจัดการ (เรียกว่าบริษัทในเครือ) 2. บริษัทที่เข้าไปควบคุมนโยบายของบริษัทในเครือโดยการซื้อหุ้นเพื่อให้ตนเองเป็นผู้ ถือหุ้นรายใหญ่ (เรียกว่าบริษัทแม่) 3. เป็นลักษณะการขยายธุรกิจของบริษัทแม่เพื่อให้มีเครือข่ายของธุรกิจที่กว้างขวางและ ครอบคลุม
สหกรณ์
คือการจัดตั้งธุรกิจโดยการรวมตัวกันของบุคคลที่มีความสนใจที่คล้ายคลึงกันหรือมีความต้องการที่เหมือนกัน
ประกอบอาชีพเดียวกันเพื่อจัดตั้งองค์กร
รัฐวิสาหกิจ หมายถึง การประกอบกิจการหรือธุรกิจที่รัฐบาลเข้าไปดำเนินการเอง
โดยเป็นเจ้าของกิจการนั้นทั้งหมด
หรือเป็นเพียงบางส่วน ที่เป็นส่วนใหญ่คือมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละ 50 หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดของกิจการนั้น
โดยมี
วัตถุประสงค์
ในการจัดตั้งเพื่อควบคุมดูแลกิจการที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
เพื่อหารายได้เข้ารัฐเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศและเพื่อป้องกันการถูกเอา รัดเอาเปรียบ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น